สตอกโฮล์มสวีเดนก่อตั้งขึ้นเมื่อใด

สรุป ปิด
1. สตอกโฮล์มซึ่งมักเรียกกันว่า “เวนิสแห่งเหนือ” มีเสน่ห์ดึงดูดใจเป็นอย่างมากจากหมู่เกาะที่สวยงามน่าหลงใหล หมู่เกาะนี้ประกอบด้วยเกาะหลัก 14 เกาะและเกาะเล็กกว่า 30,000 เกาะ เป็นสวรรค์สำหรับผู้รักธรรมชาติและผู้ที่ชื่นชอบการพายเรือ แต่ละเกาะมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ซึ่งมอบประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับผู้มาเยือน เกาะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่เกาะสตอกโฮล์มคือ Djurgården เกาะนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่งของเมือง เช่น พิพิธภัณฑ์ Vasa พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Skansen และพิพิธภัณฑ์ ABBA Djurgården ยังขึ้นชื่อในเรื่องพื้นที่สีเขียวอันเขียวชอุ่มและเส้นทางเดินที่เงียบสงบ ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่คนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวชื่นชอบ
กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ก่อตั้งขึ้นเมื่อใด

เมืองหลวงคือเมืองสตอกโฮล์ม ในประเทศสวีเดนที่คึกคักและงดงาม เมืองที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้มักถูกเรียกว่า “เวนิสแห่งเหนือ” เนื่องจากมีหมู่เกาะที่สวยงามและถนนที่ปูด้วยหินกรวด แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่ากรุงสตอกโฮล์มก่อตั้งขึ้นเมื่อใด และเมืองนี้เปลี่ยนแปลงไปเป็นมหานครที่เจริญรุ่งเรืองเช่นในปัจจุบันได้อย่างไร ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกประวัติศาสตร์อันยาวนานของกรุงสตอกโฮล์ม สำรวจการก่อตั้ง และค้นพบเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ตลอดการเดินทางสู่การเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง

กรุงสตอกโฮล์มซึ่งรู้จักกันอย่างเป็นทางการในชื่อ “Stockholms stad” ก่อตั้งขึ้นในปี 1252 โดย Birger Jarl นักการเมืองและขุนนางชาวสวีเดน Birger Jarl ต้องการสร้างที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการป้องกัน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Mälaren และทะเลบอลติก ดังนั้น กรุงสตอกโฮล์มจึงถือกำเนิดบนเกาะ Stadsholmen ที่อุดมไปด้วยน้ำ ซึ่งแปลว่า “เกาะเมือง” ในภาษาอังกฤษ

ในตอนแรก สตอกโฮล์มเป็นเพียงชุมชนเล็กๆ ที่ประกอบด้วยโครงสร้างไม้เรียบง่าย อย่างไรก็ตาม เมื่อเมืองขยายตัวขึ้น เมืองก็ขยายออกจนครอบคลุมถึงเกาะใกล้เคียงและพื้นที่แผ่นดินใหญ่ ที่ตั้งใจกลางเมืองและการเข้าถึงทางน้ำของเมืองอำนวยความสะดวกในการค้าขาย ดึงดูดพ่อค้าจากทั่วโลก และมีส่วนสนับสนุนความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของสตอกโฮล์ม

ตลอดหลายศตวรรษ สตอกโฮล์มกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในภูมิทัศน์ทางการเมืองและวัฒนธรรมของสวีเดน ในศตวรรษที่ 17 ในรัชสมัยของกษัตริย์กุสตาฟที่ 2 อดอล์ฟ สตอกโฮล์มได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ในรัชสมัยของพระองค์ ได้มีการสร้างผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงอย่างพระราชวังหลวง ปัจจุบัน พระราชวังหลวงเป็นสัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์อันยาวนานของสตอกโฮล์ม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักแห่งหนึ่งของเมือง

ศตวรรษที่ 18 และ 19 ถือเป็นยุคอุตสาหกรรมของสตอกโฮล์ม เมืองนี้มีความก้าวหน้าในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การก่อสร้างทางรถไฟและการขยายท่าเรือ ช่วงเวลาแห่งการเติบโตนี้วางรากฐานให้สตอกโฮล์มกลายเป็นเมืองที่มีความเป็นสากลและเจริญรุ่งเรืองดังเช่นในปัจจุบัน โดยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สตอกโฮล์มได้รับความสำคัญในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน เมืองนี้รับเอาเทคโนโลยีและความคิดริเริ่มสีเขียวมาใช้ จนได้รับการยกย่องให้เป็น “เมืองอัจฉริยะที่สุดในโลก” ในปี 2020 ความมุ่งมั่นของสตอกโฮล์มในการใช้พลังงานหมุนเวียน การขนส่งที่มีประสิทธิภาพ และการวางผังเมืองที่ยั่งยืนทำให้เมืองนี้เป็นต้นแบบให้กับเมืองอื่นๆ ทั่วโลก

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าความสำเร็จของสตอกโฮล์มนั้นเกิดจากการผสมผสานที่ไม่เหมือนใครระหว่างการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์และความคิดริเริ่มที่ก้าวหน้า ด้วยการผสานสิ่งเก่าเข้ากับสิ่งใหม่ สตอกโฮล์มจึงสามารถสร้างเมืองที่ดึงดูดใจทั้งผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และนักผจญภัยในยุคปัจจุบันได้

หมู่เกาะสตอกโฮล์ม

สตอกโฮล์มซึ่งมักเรียกกันว่า “เวนิสแห่งเหนือ” มีเสน่ห์ดึงดูดใจเป็นอย่างมากจากหมู่เกาะที่สวยงามน่าหลงใหล หมู่เกาะนี้ประกอบด้วยเกาะหลัก 14 เกาะและเกาะเล็กกว่า 30,000 เกาะ เป็นสวรรค์สำหรับผู้รักธรรมชาติและผู้ที่ชื่นชอบการพายเรือ แต่ละเกาะมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ซึ่งมอบประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับผู้มาเยือน เกาะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่เกาะสตอกโฮล์มคือ Djurgården เกาะนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่งของเมือง เช่น พิพิธภัณฑ์ Vasa พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Skansen และพิพิธภัณฑ์ ABBA Djurgården ยังขึ้นชื่อในเรื่องพื้นที่สีเขียวอันเขียวชอุ่มและเส้นทางเดินที่เงียบสงบ ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่คนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวชื่นชอบ

เกาะที่น่าสนใจอีกเกาะหนึ่งคือ Gamla Stan ซึ่งเป็นเขตที่เก่าแก่และได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีที่สุดของสตอกโฮล์ม ด้วยถนนที่แคบและคดเคี้ยวและอาคารที่มีสีสัน Gamla Stan จึงพาผู้มาเยือนย้อนเวลากลับไป บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของมหาวิหารสตอกโฮล์มและพิพิธภัณฑ์โนเบล ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลองให้กับผู้ได้รับรางวัลโนเบล

เกาะต่างๆ ที่อยู่รอบๆ เมืองมีทัศนียภาพเส้นขอบฟ้าของสตอกโฮล์มที่สวยงามตระการตาและเป็นสถานที่พักผ่อนที่เงียบสงบจากความวุ่นวายในเมือง ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวจำนวนมากใช้ประโยชน์จากกิจกรรมนันทนาการมากมาย เช่น การล่องเรือใบ พายเรือคายัค และตกปลา ศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของสวีเดน

สตอกโฮล์มถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของสวีเดนมาช้านาน โดยดึงดูดศิลปิน นักดนตรี และผู้สร้างสรรค์ผลงานจากทุกสาขา เมืองนี้มีฉากศิลปะที่มีชีวิตชีวา มีแกลเลอรี โรงละคร และสถานที่แสดงดนตรีมากมาย

โรงอุปรากร Royal Swedish Opera ตั้งอยู่ในสตอกโฮล์ม เป็นหนึ่งในโรงอุปรากรชั้นนำของโลกที่จัดแสดงทั้งการแสดงคลาสสิกและร่วมสมัย นอกจากนี้ เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Stockholm Concert Hall ซึ่งเป็นที่ตั้งวง Royal Stockholm Philharmonic Orchestra

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะ Moderna Museet (พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่) และ Nationalmuseum (พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ) ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด สถาบันเหล่านี้มีคอลเลกชันผลงานศิลปะมากมายจากทั้งศิลปินชาวสวีเดนและศิลปินต่างชาติ

มรดกทางวัฒนธรรมของสตอกโฮล์มไม่ได้จำกัดอยู่แค่รูปแบบศิลปะแบบดั้งเดิมเท่านั้น เมืองนี้ยังโอบรับการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่ทันสมัยและหลากหลายอีกด้วย โดยจัดงานเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปีเพื่อเฉลิมฉลองดนตรี ภาพยนตร์ การออกแบบ และอื่นๆ อีกมากมาย ตัวอย่างเช่น Stockholm Pride เป็นหนึ่งในงาน LGBTQ+ ที่ใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวีย และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเมืองในการรวมเอาทุกคนเข้าไว้ด้วยกัน

ความสุขด้านอาหาร

วงการอาหารของสตอกโฮล์มได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าทึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยได้รับชื่อเสียงในฐานะสวรรค์ของคนรักอาหาร เมืองนี้เป็นที่ตั้งของร้านอาหารมากมาย ตั้งแต่ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ไปจนถึงร้านอาหารเล็กๆ บรรยากาศสบายๆ

กระแสอาหารนอร์ดิกใหม่ ซึ่งเน้นการใช้ส่วนผสมในท้องถิ่นและตามฤดูกาล ได้ส่งอิทธิพลอย่างมากต่อภูมิทัศน์ด้านอาหารของสตอกโฮล์ม ร้านอาหารชื่อดัง เช่น Frantzén และ Oaxen Slip ยกระดับอาหารสวีเดนโดยนำเสนอรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และประเพณีการทำอาหารของประเทศ

นอกจากอาหารสวีเดนแบบดั้งเดิมแล้ว สตอกโฮล์มยังมีอาหารนานาชาติให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ร้านพิซซ่าอิตาเลียนแท้ๆ ไปจนถึงร้านอาหารฟิวชันเอเชียสุดทันสมัย ​​เมืองนี้ตอบสนองทุกความต้องการของทุกคน

ตลาดอาหาร เช่น Östermalms Saluhall และ Hötorgshallen เปิดโอกาสให้ได้ลิ้มลองอาหารสวีเดนรสเลิศมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ ชีสโฮมเมด และขนมอบโฮมเมด พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่คึกคักของตลาดที่คึกคักเหล่านี้

อนาคตของสตอกโฮล์ม

เมื่อมองไปข้างหน้า สตอกโฮล์มไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง เมืองนี้ยังคงให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและนวัตกรรม มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เป้าหมายของเมืองคือการเป็นเมืองปลอดคาร์บอนภายในปี 2040 โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของพลังงานหมุนเวียนและการลดการปล่อยมลพิษ

ฉากสตาร์ทอัพที่คึกคักของสตอกโฮล์มได้รับการยอมรับในระดับโลก ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการเป็นผู้ประกอบการและความคิดสร้างสรรค์ การมุ่งเน้นอย่างหนักของเมืองในด้านการวิจัยและพัฒนาได้นำไปสู่ความก้าวหน้าในสาขาต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีสะอาดและวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ด้วยการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ระหว่างประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และนวัตกรรม สตอกโฮล์มยังคงเป็นเมืองที่สร้างความประหลาดใจและดึงดูดผู้มาเยือน ไม่ว่าคุณจะไปสำรวจถนนสายประวัติศาสตร์ของ Gamla Stan หรือดื่มด่ำไปกับฉากศิลปะที่ล้ำสมัย สตอกโฮล์มก็มอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่รู้ลืมให้กับคุณ

Michael Watlington

Michael D. Watlington เป็นนักเขียนและนักวิจัยจากสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เขามีความสนใจอย่างลึกซึ้งในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสวีเดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบัน เขาเขียนเกี่ยวกับการเมือง การอพยพ และการบูรณาการของสวีเดน ตลอดจนวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมของประเทศสวีเดนอย่างกว้างขวาง

Leave a Comment